หลาย ๆ คนที่มาปรึกษากับบริษัทของเรามักมีปัญหาเกี่ยวกับเนื้องอก ซึ่งถ้ามองจากมุมมองของแพทย์แผนตะวันออก เนื้องอกถือเป็น ‘เหนื่อยเลือด‘ ซึ่งสาเหตุเกิดจากการที่เลือดข้นเคลื่อนที่ไม่สะดวก
นอกจากนี้ ไขมันที่แม้ว่าจะเป็นเนื้องอกที่ไม่ร้ายแรงแต่มีการเจริญเติบโตมาก ก็เกิดจาก ‘น้ำขัง‘ ในร่างกาย
สิ่งที่สามารถกล่าวได้ว่าร่วมกันก็คือ ‘ขัดขวาง’
ถึงแม้จะรับประทานอาหารหรือเสริมสุขภาพที่ดี แต่ถ้าร่างกายยังคงสะสมสารพิษในร่างกายอยู่ การตอบสนองของร่างกายก็จะไม่ดี…ก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลก
การรับสิ่งที่ดีเข้าร่างกายพร้อมกับการเอาของเสียออกจากร่างกายอย่างถูกต้อง = การล้างสารพิษ (Detox) เป็นสิ่งสำคัญมาก ขณะเดียวกันในกรณีของผู้ป่วยอายุสูงหรือเด็กที่มีโรคภัย ความสามารถในการเอาสารพิษออกเองจะอ่อนลง
ดังนั้น เมื่อมีการปรึกษากับเรา เราจะแนะนำเรื่อง ‘ความสำคัญของการนวด‘
การปรับการไหลเวียนของร่างกายด้วยมือของคน ไม่เพียงแค่ทำให้เห็นการตอบสนองของร่างกายได้ง่ายขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นเวลาที่สร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของสัตว์เลี้ยงกับสัตว์เลี้ยงด้วย และอย่างที่มีคำว่า ‘การดูแลด้วยมือ‘ การสัมผัสด้วยมือจะทำให้ความเจ็บปวดลดลง จิตใจผ่อนคลาย รวมถึงการหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุข/ฮอร์โมนแห่งสายสัมพันธ์ Oxytocin ซึ่งทำให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกผ่อนคลาย
มีวิธีการนวดหลากหลายวิธี แต่ในหน้านี้เราจะแนะนำวิธีการนวดที่ทำได้ง่าย
แนะนำการนวดสำหรับสุนัขและแมว
นวดจากหัวไปถึงหาง (หลัง): เมื่อสุนัขหรือแมวไม่สามารถปัสสาวะได้
เริ่มด้วยการนวด
หายใจเข้าลึก ๆ และนวดเบา ๆ
แนวกระดูกสันหลังมีเส้นลมปราณที่เรียกว่า ‘督脈(Tokumyaku)‘ และ ‘膀胱経(Boukokei)‘
Tokumyaku เป็นเส้นที่ทำงานเพื่อกระตุ้นพลังงานของร่างกาย ส่วน Boukokei เป็นเส้นที่ช่วยปรับกิจกรรมของระบบปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์
การนวดบริเวณนี้จะช่วยปรับสมดุลการบริหารน้ำในร่างกาย และคาดหวังให้ช่วยเอาน้ำส่วนเกินออกทางปัสสาวะ
นวดขาหน้า: อย่าลืมนวดเบาะด้วย
นวดจากกระดูกสะบักมาถึงปลายจมูกได้โดยการวนเป็นวงกลม
ขาจำนวนมากมักจะเย็นเนื่องจากการไหลเวียนไม่สะดวก เพราะฉะนั้นจึงควรนวดเบาะด้วย
นวดขาหลัง: ต้องทำให้ละเอียดกว่าขาหน้า
นวดจากส่วนเอวมาถึงปลายจมูกเช่นเดียวกับขั้นตอนที่ 2
โดยเฉพาะขาหลังมีเส้นที่ช่วยปรับกิจกรรมของระบบย่อยอาหาร ตับ และถุงน้ำดี ตลอดจนไตและกระเพาะปัสสาวะอยู่เป็นจำนวนมากจึงควรนวดอย่างละเอียดกว่าขาหน้า
นวดหาง: สำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาท้องผูก
จับที่โคนหางเบาๆ แล้วค่อย ๆ เลื่อนไปที่ปลายหาง
ที่ปลายหางมีจุดที่เรียกว่า ‘尾端‘ ซึ่งเป็นจุดที่ช่วยบรรเทาท้องผูก
การขับถ่ายเป็นการล้างสารพิษที่สำคัญที่สุดในร่างกาย ดังนั้นสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาท้องผูกควรนวดจุดนี้ให้เหมาะสม
กระตุ้นจุด湧泉: ช่วยปรับสมดุลการไหลเวียน
ที่ฐานเบาะของขาหลังมีจุดที่เรียกว่า 湧泉
จุดนี้หมายถึงที่ที่พลังชีวิตทั้งหมดออกมาและช่วยปรับสมดุลการไหลเวียนในร่างกาย
กดเบา ๆ ไปในทิศทางของนิ้วเท้า
สำหรับสุนัขขนาดเล็ก อาจใช้ไม้สำลีหรือหัวปากกาในการกดจะง่ายขึ้น
ดึงผิวหนังด้านหลัง: อย่าพลาดสัญญาณของการขัดขวาง
แบ่งส่วนหลังจากหัวถึงโคนหางเป็น 5 ส่วน แล้วดึงผิวหนังด้านหลังของแต่ละส่วนขึ้น
บริเวณที่ยืดออกไม่ดีเป็นหลักฐานของการขัดขวาง จึงควรนวดบริเวณรอบ ๆ นั้นเป็นวงกลม
การนวดข้างต้นสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยใครก็ได้ แต่มีข้อควรระวังบางประการ ดังนั้นกรุณาตรวจสอบดังนี้ด้วย
ข้อควรระวัง 2 ประการในการนวดสุนัขและแมว
ทำเมื่อมีเวลาว่างและใจสงบ
เมื่อคุณคิดกลับว่าถ้าให้คนที่หงุดหงิดหรือลังเลนวดให้คุณ คุณจะรู้สึกไม่สบายใจใช่ไหม?
เวลามีจำกัดและจิตใจไม่สงบ การนวดอาจทำให้ลูกของคุณรู้สึกไม่สบายได้
การนวดควรทำเป็นประจำทุกวันถ้าเป็นไปได้ แต่ไม่ควรฝืนใจตัวเอง
ให้ทำเมื่อมีเวลาและจิตใจที่พร้อม โดยใช้เวลานั้นให้ได้สัมผัสใกล้ชิดกับลูก
ไม่บังคับ
ถ้าสัมผัสบริเวณที่มีการสะสม ระบบต่างๆ อาจทำให้เกิดความเจ็บปวดและไม่สบาย และทำให้ลูกไม่ชอบ
นอกจากนี้ มีเด็กบางคนที่ไม่ชอบการสัมผัสโดยพื้นฐานอยู่แล้ว
ไม่ว่าจะมีประโยชน์แค่ไหน การบังคับทำสิ่งต่างๆ จะเป็นสาเหตุของความเครียด และทำให้สมดุลภูมิคุ้มกันแปรปรวน
ถ้าลูกไม่ชอบ ควรหยุดใช้เวลานั้นและหาวันเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้ลูกค่อยๆ คุ้นเคย
อีกทั้งยังมีคนที่อยากให้ลูกดีขึ้นแต่ใช้แรงมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว
น้ำหนักมือควรอยู่ในระดับที่พอให้บอลลูนยุบตัวลงเล็กน้อย
หากลูกไม่ชอบ อาจลองปรับมือดูอีกครั้งก็ได้
สรุป
โดยการเพิ่มการดูแลที่บ้าน การตอบสนองของการรักษาที่โรงพยาบาลอาจเปลี่ยนไป หรือแม้จะใช้บริโภคอาหารและเสริมอาหารเช่นเดิม สภาพร่างกายก็อาจเปลี่ยนไป
ขอแนะนำให้ลองเพิ่มการนวดเข้าไปในชีวิตประจำวัน